คริสต์มาสเมืองเบตงครึกครื้นนักท่องเที่ยวชาวไทยและ
ชาวมาเลเซียออกมาเดินเที่ยวชม ชิม ช้อป กันอย่างคึกคัก ยะลา – บรรยากาศคืนคริสต์มาสเมืองเบตงครึกครื้น นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวมาเลเซียออกมาเดินเที่ยวชม ชิม ช้อป กันอย่างคึกคัก ขณะที่เทศบาลเมืองเบตง ได้ประกาศงดจัดกิจกรรม CountDown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
เมื่อค่ำวันนี้ 25 ธ.ค.65 บรรยากาศตามซอยถนนคนเดิน บริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวมาเลเซียออกมาเดินเที่ยวชม ชิม ช้อปอาหารสตรีทฟู้ต และถ่ายรูปกับไฟประดับหลากสีสัน บางคนแต่งตัวเป็นซานต้า-ซานตี้ ร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง ทำให้บรรยากาศวันหยุดสุดสัปดาห์ที่อ.เบตง คึกคักเป็นอย่างมาก โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม

สำหรับซอยถนนคนเดินซึ่งอยู่โดยรอบของวงเวียนหอนาฬิกา ใจกลางเมืองเบตง เป็นย่านอาหารที่รวบรวมร้านอาหารสตรีทฟูดใว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหมกไก่ทอดสมุนไพร , โรตี 100 คิว , มะตะบะ, ผัดไทยกุ้งสดห่อไข่ , หอยทอด , ก๋วยจั๊บจัมโบ้, ลูกชิ้นปิ้งย่าง , ขนมปังไส้ทะลัก , ขนมรางไข่ , กาแฟตุ๊กตุก และเมนูอื่นๆอีกมากมาย ที่พร้อมเสิร์ฟให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองความอร่อย ซื้อเเล้วเดินรับประทานได้สบายๆ เเถมราคาไม่เเพง

ขณะที่เพจประชาสัมพันธ์เทศบาลเมืองเบตง ได้ประกาศว่า ทางเทศบาลเมืองเบตง งดกิจกรรมการแสดงดนตรี และงดกิจกรรม CountDown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2565 – 1 มกราคม 2566 ณ บริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง และงดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 – 1 มกราคม 2566 ณ วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง แต่ยังคงจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร ในวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ณ วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ขอให้ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน หายจากพระอาการประชวรโดยเร็วพลัน และเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2566
ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา
โทร.064-126-5593
เบตงคุมเข้มหลังปั้มน้ำมันตรงเป็นเป้าหมายทำลาย
จันทร์ ธ.ค. 26 , 2022
เบตงคุมเข้มหลังปั้มน้ำมันตรงเป็นเป้าหมายทำลายความเ […]

You May Like
-
กาญจนบุรี – หนุ่มเดนคุกตามจีบสาววัย19 ถูกพ่อเลี้ยงกีดกัน โมโหจัดควักปืนยิงดับ ลุงเก็บของป่าผ่านมาเจอถูกยิงดับไปอีกราย กาญจนบุรี หนุ่มเดนคุกตามจีบสาววัย 19 แต่เจ้าตัวไม่เล่นด้วย แถมพ่อเลี้ยงและแม่ยังกีดกัน โมโหจัดควักปืนยิงพ่อเลี้ยงเสียชีวิต ขณะที่ลุงหาของป่าเดินผ่านมาเจอถูกยิงดับไปอีกราย พบประวัติสุดโหดก่อคดีฆ่าเผายัดเตาถ่าน เพิ่งพ้นคุกมาได้แค่ปีเดียว ก่อนมาก่อเหตุสุดอุกอาจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเลาขวัญ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตจำนวน 2 ราย เหตุเกิดภายในป่าสัก พื้นที่บ้านพุบอน หมู่ 3 ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต สภาพศพถูกยิง เข้าที่บริเวณใบหน้าและลำตัว นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้น จำนวน 2 ราย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายเสริมศักดิ์ หรือ ต้าร์ ขุนกลาง อายุ 38 ปี (ไม่ใส่เสื้อ) มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณใบหน้าและลำตัวรวม 3 นัด และ นายบุญส่ง ศรีทับทิม หรือ ลุงส่ง อายุ 50 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณใบหน้าและลำตัวรวม 3 นัดเช่นกัน ส่วนตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือนายจิรเดช หรือ ต้อม ทองยิ้ม อายุ 36 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านของผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จากการสอบถาม นางมด อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ นายเสริมศักดิ์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า นายจิรเดช ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาจีบและติดพันน้องเนย ซึ่งเป็นลูกสาวของตนเองประมาณ 2-3 เดือนแล้ว แต่ลูกสาวของตนไม่เล่นด้วย ทำให้ นายจิรเดชเกิดความโมโหและพยายามมาตามตื้อลูกสาวของตนที่บ้านอยู่หลายครั้ง ก่อนเกิดเหตุตนและสามี ได้ออกไปหาตัดไม้เผาถ่านตามปกติ กระทั่ง นายจิรเดชได้เข้ามาหาที่บริเวณป่าสักจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนพร้อมสามีรวมถึงวัยรุ่นหนุ่มสาวอีก 2 คนกำลังนั่งเล่นกันอยู่ นายจิรเดช ได้เข้ามาพยายามสอบถามว่าน้องเนยไปอยู่ที่ไหน แต่ตนและสามีไม่ยอมบอก ทำให้ นายจิรเดช เกิดความโมโหควักอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่พกติดตัวออกมาข่มขู่ แต่ นายเสริมศักดิ์ซึ่งเป็นสามีของตนก็ยังไม่ยอมบอก ทำให้ นายจิระเดชตัดสินใจใช้ปืนยิงเข้าใส่ นายเสริมศักดิ์ ที่ใบหน้าและลำตัวรวม 3 นัด ต่อหน้าต่อตาของตนและวัยรุ่นอีกสองคนที่อยู่ข้างๆ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ นายบุญส่ง ซึ่งมีอาชีพหาของป่าเดินผ่านมาพอดี นายจิรเดช จึงหันปืนไปรัวยิงใส่ นายบุญส่งอีก 3 นัด จนล้มลงเสียชีวิตข้างศพของ นายเสริมศักดิ์ หลังก่อเหตุนายจิระเดชยังได้บังคับให้ตนนั่งรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายพากลับไปส่งที่บ้านของตน ก่อนที่ นายจิรเดชจะขี่รถหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ด้วยความกลัวตนจึง รีบหนีออกไปจากบ้านก่อนจะโทรไปแจ้งให้ป้าทราบเรื่องและโทรแจ้งตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมตัว นายจิรเดชดังกล่าว ขณะเดียวกัน นางทิม แก้วบุตรดี อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นป้าของ นางสาวมด ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า นายจิรเดช ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาพยายามจีบน้องเนยหลานสาวของตนได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว แต่ตลอดเวลาน้องเนยไม่เล่นด้วย เพราะรู้ถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของนายจิระเดช จึงไม่อยากยุ่งด้วย แต่ นายจิรเดช ก็ยังตามตื้อไม่เลิก คืนก่อนเกิดเหตุ ก็ได้ขับรถมาเบิ้ลเครื่องที่หน้าบ้านและพยายามเข้าไปหาน้องเนยที่อยู่ในบ้านตลอดทั้งคืน จนน้องเนยต้องโทรไปหา นางสาวมด ซึ่งเป็นแม่ และนายเสริมศักดิ์ที่เป็นพ่อเลี้ยง ให้มาช่วยอยู่เป็นเพื่อน และพยายามไล่ให้ นายจิรเดชกลับบ้านไป กระทั่งช่วงเช้าเมื่อ นายเสริมศักดิ์และนางสาวมด ออกไปเข้าป่าตัดฟืนมาเผาถ่านตามปกติก็ไปเจอกับ นายจิรเดชผู้ก่อเหตุ จนนำมาสู่การก่อเหตุสุดอุกอาจครั้งนี้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของ นายจิรเดช ผู้ก่อเหตุ พบว่าเมื่อช่วงปี 2559 ได้เคยก่อเหตุฆ่าผู้สูงอายุและ นำศพไปยัดเตาเผาถ่านเพื่อจุดไฟเผาอำพรางคดีมาแล้ว โดยศาลได้ตัดสินจำคุก นายจิรเดชเป็นเวลา 25 ปี แต่ นายจิรเดชได้รับการลดหย่อนโทษกระทั่งพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณปี 2565 ติดคุกจริงเพียง 5 ปี ก่อนจะกลับมาอยู่ที่บ้าน ก่อนจะมาติดพันน้องเนยจนนำไปสู่การก่อเหตุในครั้งนี้ /////////////////////////////////////////////////////////// ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ – รายงาน
@เอกชัย โปธา 08/11/2023
