กาญจนบุรี – จับอีก 2 ราย รับทำมา 5 ครั้งรอด แต่วันนี้ไม่รอด!! ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี สกัดจับกระบะตีเนียน ส่วนอีกรายหนุ่มพกบัตรเลข 0 ขับกระบะซุกต่างด้าว โดนรวบคาด่าน สารภาพได้ค่าจ้าง 1.5 หมื่น นำส่งสมุทรสาคร จ่อซวยอาจถูกเพิกถอนบัตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี นำโดย พันตำรวจโจ เสาร์ประโคน สารวัตรตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี (สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.)พร้อมด้วย ร้อยตำรวจโทพีรธรรม หนูนุรัตน์ รอง สว.ป.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ร่วมทหารชุดการข่าว กกล.สุรสีห์ กองพล.ร.9 ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี ผู้ใหญ่บ้าน นำกำลังวางแผนสกัดจับขบวนการลักลอบขนต่างด้าวผิดกฏหมาย โดยออกตรวจในพื้นที่ ตำบสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

ต่อมาพบรถกระบะต้องสงสัยเป็นรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นโคโรลาโด้ สี่ประตู สีเทา ทะเบียน กร 4966 กาญจนบุรี ขับปะปนกับรถชาวบ้าน แต่มีลักษณะบรรทุกหนักและใช้ความเร็ว จึงติดตามบนถนนสายวังสิงห์-บ้านเก่า แล้วขับมุ่งหน้าด่านตรวจบ้านลำทราย หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจทางหลวงส่งสัญญานให้จอดกลับเร่งเครื่องหลบหนี แต่โดนสกัดจับไว้ได้คุมตัวคนขับรถไว้ได้ ตรวจสอบพบว่าภายในรถมีต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฏหมายจำนวน 9 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 2 คน

ส่วนคนขับคือ นายวันชัย ปาทาน อายุ 30 ปี ที่อยู่ 149/11 หมู่ 4 ตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จึงคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี และตรวจสอบภายในรถกระบะพบว่ารถทะเบียนตรงกับป้ายจริง และพบกระเป๋าเป้ที่วางไว้ท้ายกระบะและภายในรถอีกด้วยไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด

จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าคนขับใช้วิธีลักลอบขนในเส้นทางรองและใช้ช่วงเวลาที่ชาวบ้านพลุกพล่านไม่ให้เป็นที่สังเกตุ จึงแจ้งข้อหากับ นายวันชัย ปาทาน คนขับในข้อหาซ่อนเร้นช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฏหมายเพื่อให้พ้นการจับกุม ให้การรับสารภาพ ส่วนต่างด้าว 9 คน ในข้อกระทำความผิดเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

สำหรับรายที่สองหนุ่มพกบัตรเลข 0 ขับกระบะซุกต่างด้าว โดนรวบคาด่าน สารภาพได้ค่าจ้าง 1.5 หมื่น จะนำต่างด้าวทั้งหมดไปส่งสมุทรสาคร งานนี้อาจถูกเพิกถอนบัตร โดยพันเอกพรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พันเอกปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.ที่ 136 บูรณาการร่วมกันป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดที่บริเวณจุดตรวจร่วมไทรโยค บ้างพุองกะ ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค อย่างเคร่งครัด
จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโว่ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ผข 7045 ราชบุรี ขับมาจากทางด้าน อำเภอทองผาภูมิ มุ่งหน้าเข้าอำเภอเมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงด่านตรวจเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น

จากการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งแออัดมาเต็มคันรถ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายมินทดา ไม่มีชื่อสกุล ชาวเมียนมา อายุ 44 ปี คนขับเอาไว้ จากนั้นเชิญตัวต่างด้าวเป็นชายที่โดยสารมาด้วย จำนวน 10 ราย มาสอบสวนและตรวจเอกสาร โดยพบว่านาย มินทดา คนขับมีบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานนะทางทะเบียน บัตรขึ้นต้นด้วยเลข 0 ส่วนต่างด้าวจำนวน 10 ราย ไม่มีเอกสารการได้รับอนุญาตให้อยู่หรือให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย
ซึ่งนายมินทดา คนขับให้การว่า ตนขับรถไปรับแรงงานจำนวนดังกล่าวที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ บ้านท่าแพ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ เพื่อนำไปส่งที่ จังหวัดสมุทรสาคร โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 15,000 บาท
ส่วนกลุ่มแรงงานทั้ง 10 คน ให้การว่าพวกตนหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตามแนวชายแดนด้าน อำเภอสังขละบุรี จากนั้นมีผู้ชำนาญเส้นทางนำพาเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจ เมื่อข้ามเข้ามาได้จึงไปลงเรือมาขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำบ้านท่าแพ จากนั้นมาขึ้นรถยนต์ที่นายมินทดา มาจอดรอรับอยู่แล้ว ระหว่างเดินทางมุ่งหน้าไปทำงานในพื้นที่ จังหวัดสมุทรสาคร ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
หลังจากผู้ต้องหาให้การยองรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”ส่วนนาย มินทดา ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน”ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นการจับกุม”โดยนาย มินทดา อาจถูกพิจารณาเพิกถอนบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานนะทางทะเบียน อีกด้วย
//////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

