สุดทน !!! สองสามีภรรยา “ร้องสื่อ” หมด

admin2

สุดทน !!! สองสามีภรรยา “ร้องสื่อ” หมดทางทำมาหากินหลังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชถึงลวดล้อมร้านค้าติดลำห้วยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2564 นางกฤติยวดี ป่าเขียว บ้านเลขที่ 77 หมู่ 6 ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่จังหวัดแพร่ เข้าร้องสื่อให้เข้าไปตรวจสอบเรื่องอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เข้าล้อมรั้วติดลำห้วย ที่ตนให้ลูกค้าได้เข้าไปพักผ่อนเล่นน้ำตามข้างห้วยจึงทำให้ไม่มีลูกค้ามาเลยตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงวันที่ 21 กันยายน 2564 ซึ่งนางกิติยวดี ได้เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเปิดร้านที่นี่มาตั้งแต่ปี 2557 เมื่อก่อนเป็นของกรมป่าไม้จังหวัดแพร่และได้ตั้งพิกัดปักเสาให้เป็นแหล่งทำมาหากินได้จนกระทั่งมีการถ่ายโอนมายังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพืชพืชพันธุ์ ซึ่งได้มาเก็บค่าเช่าที่ของตนปีละ 3,000 บาท จากที่เมื่อก่อนป่าไม้ไม่เคยเก็บตนเลยตนก็ไม่ว่าอะไรจนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เอาหนังสือให้ตนเซ็นหาว่า ตนลุกล้ำป่าไม้ แต่ตนไม่ได้เซ็น และวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ได้มีเจ้าหน้าที่มาล้อมรั้วพื้นที่ที่ให้ลูกค้าลงเล่นน้ำและอีกฝั่งหนึ่งก็เป็นที่ร้านค้าของอีกเจ้าหนึ่งและ ไม่ให้ลงเล่นน้ำหรือทำพื้นที่ปลูกกินใดๆทั้งสิ้น และมีป้ายประกาศไว้ว่าเป็นเขตหวงห้ามของอุทยานฯ และขู่ตนว่าถ้าเข้ามาจะจับทั้งสองคนสามีภรรยา ตั้งแต่

วันที่ 8 สิงหาคม 2564 วันถึงวันที่ 21 กันยายน 2564 ตนไม่มีรายได้เข้าร้านเลย ผักปลาวัตถุดิบที่ซื้อมาก็เน่าเสียเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว เพราะไม่มีลูกค้าเข้าลวดที่ขึงติดลำห้วย อย่างแน่นหนา จนทำให้ลูกค้าคิดว่าร้านของตนไม่ได้เปิดเลย ซึ่งตนเคยโทรไปขอร้องกับทางเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯว่า ขอให้เปิดช่องทางให้ตนเพราะตรงที่ล้อมรั้วนั้น คือทางปั๊มน้ำที่ต้องสูบน้ำขึ้นมาเพื่ออุปโภคบริโภคแต่เจ้าหน้าที่บอกกับตนว่าให้ไปลงอีกทางหนึ่งซึ่งทางนั้นชันมาก สามีของตนอายุเกือบ 70 ปีแล้ว และตนเองเป็นโรคมะเร็ง ไม่มีลูก อยู่กันสองคนสามีภรรยาทำมาหากินเปิดร้านตรงนี้แต่ทางเจ้าหน้าที่กรมอุทยานมาตัดทางทำมาหากินของตนแถมยังขู่ตนกระทำกับตนไม่ใช่คน ตนเสียใจมากที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำแบบนี้ตัดทางทำมาหากินยิ่งสถานการณ์ covid-19 นั่นก็แย่พออยู่แล้วทนแทบจะไม่ได้ขายของอยู่แล้วแต่เจ้าหน้าที่ของรัฐมาทำกับตนแบบนี้ เหมือนกันแกล้งให้ตอนหมดทางทำมาหากิน และยังมีอีกหลายร้านที่ต้องเดือดร้อนเพราะกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านที่ลน.1เชิงทอง ทำแบบนี้

ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า การกระทำของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชลำน้ำน่านลน.1 เชิงทองทำเกินไปและยังมีสิ่งที่ผิดปกติส่อถึงการทุจริตของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชหน่วยพิทักษ์อุทยานลำน้ำน่านลน.1 เชิงทอง จึงขอให้เจ้าหน้าที่แจ้งหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนโดยด่วนเพื่อบรรเทาทุกข์ของประชาชนจังหวัดแพร่ต่อไปและเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดแพร่หลังสถานการณ์โควิค -19 ที่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้มีนโยบายท่องเที่ยวในเมืองแพร่ ซึ่งการกระทำของเจ้าหน้าที่ได้ขัดกับนโยบายของจังหวัดแพร่อย่างสิ้นเชิง

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่

Next Post

น่าน ฉก.ปัว รวบเฒ่า 63 ค้ายาบ้าเกือบ

Post Views: 295 น่าน ฉก.ปัว รวบเฒ่า 63 ค้ายาบ้าเกื […]

ข่าวภูธร