น้อมนำ !!! พัฒนาชุมชน จ.แพร่ ขยับฯ โคกหนองนา ปันสุขคลายหนาว ผลงานเด่นปี 64 สู้โควิด
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 ถึงบรรยากาศการพัฒนาท้องถิ่น ท่ามกลาง การระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในปีพุทธศักราช 2563 เข้าสู่การระบาดรอบที่ 2 ในต้นปี 2564 ทำให้การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นมีปัญหาอุปสรรคอย่างมาก นางสาวณัฐธยาน์ โปธิมา ผอ.กลุ่มงานสารสนเทศพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ กล่าวถึงการพัฒนาในปีที่ผ่านมาและการพัฒนาที่เน้นหนักในปี 2564 นี้ว่า สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ มีการพัฒนาโครงการเด่นอยู่หลายโครงการ อาทิ การน้อมนำแนวพระราชดำริ ของสมเด็จพระเทพ ฯโดยใช้ชื่อย่อว่า การสร้างความมันคงทางอาหารหรือว่าการปลูกผักซึ่งให้ทุกครัวเรือนปลูกผักในรั้วรอบบ้าน ตั้งแต่ตั้งแต่เมษายนปีที่แล้ว และก็มาถึงเดือนธันวาคมปี 2563 เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจังหวัดแพร่ของเราในการดำเนินการทั้งปลูกผักด้วยทั้งบริหารจัดการเรื่องอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเรื่องบริหารขยะ มีศูนย์เมล็ดพันธุ์ด้วย แล้วก็ได้รับความร่วมมือจากทุกครัวเรือนของจังหวัดแพร่ เฉลี่ยได้ถึง 97 เปอร์เซ็นต์ อันนี้คือเป็นโครงการแรกเด่นๆซึ่งทำให้ชาวบ้านไม่ต้องไปซื้อผักกินเองสอดรับกับสถานการณ์โควิดพอดี
โครงการที่ 2 เป็นโครงการเรื่องการส่งเสริมการสวมใส่ผ้าไทย เพราะว่า กรมการพัฒนาชุมชนสนับสนุนเรื่อง OTOP ของเราส่งเสริมในเรื่องการผลิตและนำมาแปรรูปเป็นชุดเพื่อสวมใส่ก็เลยเป็นชื่อโครงการอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดิน จังหวัดแพร่ก็ได้รณรงค์อโดยมีนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ให้หน่วยงาน ภาครัฐ เอกชน ประชาชนชาวแพร่ สวมใส่ผ้าไทยหรือผ้าพื้นถิ่นเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้งสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้อย่างดียิ่ง อีกโครงการที่ผ่านมาเรื่องการทำให้ชาวบ้านที่เป็น สตรีสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของจังหวัดแพร่ ซึ่งในการบริหารจัดการโครงการนี้สามารถทำให้สตรี ที่ไม่มีเงิน แต่มีอาชีพ ทุนไม่มีต้องไปกู้หนี้นอกระบบ สามารถกู้เงินกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้โดยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 สตางค์ต่อปี แล้วก็สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับสตรีด้วยเป็นผลงานเด่นทั้ง 3 เรื่องของจังหวัดแพร่
ส่วนในปี 2564 ซึ่งมีการระบาด ของไวรัส covid ในรอบที่ 2 หลายจังหวัดมีมาตรการห้าม และขอความร่วมมือ ให้ประชาชนอยู่บ้าน ไม่เดินทางออกนอกจังหวัด สิ่งที่ พัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ เน้นคือ ตอนนี้โครงการกรมของเราที่สนับสนุนเรื่องการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติโดยใช้ชื่อว่า “โครงการโคกหนองนาโมเดล” ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ เน้นปรับปรุงพื้นที่เกษตรของตนเอง เป็นการบริหารจัดการพื้นที่ บริหารจัดการน้ำ บริหารจัดการดิน บริหารจัดการป่า เน้นชาวบ้านที่เป็นต้นแบบในตอนแรก เป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อให้เขามีน้ำที่อุดมสมบูรณ์ มีการขุดสระ หรือ การขุดคลองใส้ไก่ มีน้ำเสร็จ เขาสามารถปลูกพืชผักสวนครัว ทำไม้ผล ปลูกป่า ทุกอย่างไว้ในพื้นที่เลี้ยงสัตว์เกิดเป็นศูนย์เรียนรู้ของครัวเรือนได้ สามารถทำให้เขามีอาชีพมีรายได้เป็นของตนเองได้ ด้วยโครงการโคกหนองนามีการอบรมเจ้าหน้าที่ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้อยู่ในช่วง covid ระบาดรุนแรงจึงต้องชะลอการอบรมเจ้าของพื้นที่ไปก่อน เมื่อเชื้อโควิดคลี่คลาย จะได้ดำเนินการให้เต็มโครงการในปี 2564 นี่คือโครงการแรกตอนนี้แล้วอีกโครงการหนึ่งที่ไม่ใช้งบประมาณของทางราชการสักบาทเดียว เป็นโครงการ “หนาวนี้คนแพร่ปันสุขปี 2564 เราได้ดำเนินโครงการโดยเอาภาคีเครือข่ายของของพัฒนาชุมชนและเอกชนก็จะมี คณะกรรมการพัฒนาสตรีมี OTOP กองทุนหมู่บ้าน ผู้นำสตรี กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผู้นำอช. เป็นเครือข่าย แล้วก็ให้แต่ละท่านแต่ละเครือข่ายประชาสัมพันธ์แล้ว ก็ผู้มีจิตศรัทธาที่จะบริจาคสิ่งของก็ได้บริจาคเงินก็ได้แล้วเราก็นำไปมอบให้กับครัวเรือนที่ตกเกณฑ์จปฐ.และครัวเรือนที่ไร้ที่พึ่งไม่มีคนดูแล ตอนนี้กำลังดำเนินการทั้งหมด 8 อำเภอ และดำเนินการไปแล้ว 3 จุด ในอำเภอร้องกวาง อำเภอหนองม่วงไข่ อำเภอเด่นชัยแล้ว ส่วรอีก 5 อำเภอ จะดำเนินการต่อไป ซึ่งอำเภอเมืองแพร่ จะดำเนินการในวันที่ 13 มกราคม นี้ เป็นการมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคหลายอย่างที่จำเป็น ในบางอำเภอก็จะมีการทำห้องน้ำ ปรับปรุงบ้านด้วย เป็นโครงการที่ไม่ได้ใช้งบประมาณของสำนักงานพัฒนาชุมชนของเราแม้แต่บาทเดียวทั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในจังหวัดแพร่ที่มีจิตรเมตตา จิตรอาสามาร่วมกันสำหรับโครงการฯ ที่พัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ ดำเนินการ เป็นการรองรับสถานการณ์ การระบาดของ เชื้อไวรัส covid ที่ส่งผลกระทบถึงสภาวะเศรษฐกิจ สังคมและความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างถ้วนหน้า โครงการเหล่านี้ นอกจากใช้งบประมาณ น้อย แต่ยังสามารถเข้าไปสู่การเยียวยาและต่อยอดไปสู่การพัฒนาในอนาคตได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการสร้างฐานการผลิต สร้างฐานะความเป็นอยู่ ความเข้มแข็งของครัวเรือน ตามปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างแท้จริงด้วย
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่